ผู้ชายกำลังหยิบขวดเครื่องสำอางขนาดเล็กเพื่อดูรายละเอียดของสัญลักษณ์บนฉลาก

รู้จัก สัญลักษณ์บนเครื่องสำอาง มีอะไรบ้าง

เคยสังเกตสัญลักษณ์ต่างๆ บนผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่คุณใช้ประจำหรือไม่? หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่มองข้ามความหมายที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังสัญลักษณ์เหล่านั้น วันนี้เราจะมาดูกันว่าสัญลักษณ์นั้นมีอะไรบ้าง และสำคัญอย่างไร

ทำไมสัญลักษณ์บนเครื่องสำอางจึงสำคัญ?

ผู้ชายกำลังเปิดฝาผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางพร้อมดูสัญลักษณ์บนฉลากอย่างใกล้ชิด

สัญลักษณ์บนเครื่องสำอางเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะช่วยให้คุณใช้ผลิตภัณฑ์อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการรู้จักสัญลักษณ์ คุณจะสามารถหลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ที่หมดอายุหรือไม่เหมาะสมกับสภาพผิวของคุณ นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณเลือกผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการและค่านิยมของคุณ เช่น ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ทดลองกับสัตว์หรือเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

การรู้จักและเข้าใจสัญลักษณ์เหล่านี้จะช่วยให้คุณเป็นผู้บริโภคที่รู้หลักการใช้งานของผลิตภัณฑ์ และสามารถเลือกใช้เครื่องสำอางที่เหมาะสมกับตัวเองและปลอดภัยต่อสุขภาพ อีกทั้งยังจะช่วยให้คุณไม่เกิดอาการแพ้ต่อสุขภาพผิวอีกด้วย

ผู้หญิงกำลังดูหน้าจอแท็บเล็ตที่แสดงสัญลักษณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับเครื่องสำอาง

สัญลักษณ์บนเครื่องสำอางที่สำคัญ มีอะไรบ้าง?

1.วันหมดอายุ (Best Before End of หรือ BBE)

สัญลักษณ์นี้จะบอกวันที่ผลิตภัณฑ์หมดอายุ ซึ่งหลังจากวันที่ระบุไว้ คุณภาพและความปลอดภัยของเครื่องสำอางนั้นอาจเสื่อมลง ดังนั้น หากคุณใช้ต่อไปอาจเกิดผลไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ผิวระคายเคือง การเจริญเติบโตของแบคทีเรียหรือเชื้อรา เป็นต้น ดังนั้น หลังจากวันที่ระบุไว้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานและทิ้งผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัย

2.อายุหลังเปิดใช้งาน (Period Durability หรือ PAO symbol)

สัญลักษณ์นี้จะบ่งบอกระยะเวลาที่ผลิตภัณฑ์นั้นสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยหลังจากเปิดใช้งานครั้งแรก ซึ่งมักจะแสดงเป็นเดือนหรือปี เช่น 12M หมายถึงสามารถใช้งานได้อีก 12 เดือนหลังจากเปิดใช้ครั้งแรก หากใช้ต่อไปหลังจากนั้น อาจมีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนจากแบคทีเรียหรือเชื้อราได้ ดังนั้น เพื่อความปลอดภัย ควรทิ้งผลิตภัณฑ์หลังจากระยะเวลาที่ระบุไว้

3.สัญลักษณ์คำเตือนและข้อควรระวัง

สัญลักษณ์เหล่านี้จะเตือนให้คุณระมัดระวังในการใช้งานผลิตภัณฑ์ เช่น สัญลักษณ์ที่ห้ามใช้กับดวงตา อาจระคายเคืองผิวหรือแพ้ได้ ดังนั้น ก่อนใช้ควรอ่านคำเตือนและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อหลีกเลี่ยงอันตรายหรือผลข้างเคียงที่ไม่พึงประสงค์

4.เครื่องสำอางที่ไม่ผ่านการทดลองในสัตว์ (No Animal Testing symbol)

สำหรับผู้ที่รักสัตว์ สัญลักษณ์นี้จะบ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่ได้ผ่านการทดลองกับสัตว์ทดลองในทุกขั้นตอนการผลิต ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการสนับสนุนแนวคิด Cruelty Free หรือการไม่ทารุณกรรมสัตว์

5.มีสารป้องกัน UVA ได้ในปริมาณที่แนะนำ (Ultraviolet A หรือ UVA)

สัญลักษณ์นี้จะระบุว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนผสมของสารป้องกันแสง UVA ในปริมาณที่เพียงพอต่อการป้องกันผิวจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดริ้วรอย ฝ้า กระ และมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น หากคุณต้องการผลิตภัณฑ์ที่ให้การปกป้องผิวจากแสงแดดได้ดี ควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์นี้

6.ไม่มีพาราเบนและสารกันเสีย (Paraben Free)

พาราเบน คือสารกันเชื้อรา แบคทีเรียที่พบในเครื่องสำอางหลายชนิด แต่มีข้อกังวลว่าอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้น ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์นี้จึงเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับผู้ที่ต้องการหลีกเลี่ยงพาราเบนและสารกันเสียประเภทอื่นๆ

7.ผลิตภัณฑ์มีส่วนผสมออร์แกนิคมากกว่า 95% (Ecocert Cosmos)

สัญลักษณ์นี้บ่งบอกว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนผสมจากธรรมชาติหรือส่วนผสมออร์แกนิคมากกว่า 95% ซึ่งได้รับการรับรองมาตรฐานจาก Ecocert หรือ Cosmos ดังนั้น หากคุณต้องการผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและปลอดสารเคมีที่เป็นอันตราย ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์นี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี

8.ผลิตภัณฑ์วีแกน (Certified Vegan)

สำหรับผู้ที่นับถือวิถีวีแกน สัญลักษณ์นี้จะรับรองว่าผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไม่มีส่วนผสมที่มาจากสัตว์แต่อย่างใด ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงจะสามารถติดสัญลักษณ์นี้ได้ ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับผู้บริโภคกลุ่มวีแกน

9.ผลิตภัณฑ์ที่ไม่เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม (Green Dot)

สัญลักษณ์วงกลมสีเขียวนี้ บ่งบอกว่าผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ดังกล่าวมีส่วนร่วมในการช่วยจัดการกับบรรจุภัณฑ์หลังการใช้งาน ซึ่งจะช่วยลดปริมาณขยะและมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น หากคุณเป็นคนที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ผลิตภัณฑ์ที่มีสัญลักษณ์นี้น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี

10.ปริมาณที่บรรจุตรงกับที่ระบุบนผลิตภัณฑ์ (Estimated Symbol)

สัญลักษณ์ e หรือ Estimated Symbol เป็นการรับรองว่าปริมาณสารที่บรรจุในผลิตภัณฑ์นั้นตรงกับที่ระบุบนฉลาก ซึ่งเป็นการคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคจากการโกงน้ำหนัก

สรุป

สัญลักษณ์บนเครื่องสำอางเป็นมากกว่าแค่รูปร่างลวดลายธรรมดาๆ แต่เป็นภาษาสื่อสารที่สำคัญระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค โดยการเรียนรู้และเข้าใจความหมายของสัญลักษณ์เหล่านี้ คุณจะสามารถเลือกใช้เครื่องสำอางได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสัญลักษณ์แสดงอายุการใช้งาน สัญลักษณ์ปลอดภัยต่อผิว หรือสัญลักษณ์คำเตือนและข้อควรระวัง ล้วนแล้วแต่มีความสำคัญและคุณค่าที่จะช่วยให้คุณเป็นผู้บริโภคที่ฉลาดและรู้เท่าทันในการเลือกใช้เครื่องสำอาง

ดังนั้น ครั้งหน้าที่คุณเดินเลือกซื้อเครื่องสำอาง อย่าลืมสังเกตสัญลักษณ์บนบรรจุภัณฑ์และใช้ความรู้ที่คุณได้รับจากบทความนี้เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณมากที่สุด เพราะสุขภาพผิวพรรณที่ดีคือสิ่งสำคัญที่คุ้มค่าแก่การลงทุน ไม่ใช่เพียงเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงถึงการดูแลตัวเองอย่างแท้จริง