ภาพถาดกระดาษ Food Grade ลายตารางหมากรุกและรูปอาหาร

ถาดกระดาษ Food Grade มีขนาดอะไรบ้าง เลือกใช้แบบไหนดี

ถาดกระดาษ Food Grade ถือเป็นอุปกรณ์จำเป็นสำหรับการจัดเสิร์ฟอาหารต่าง ๆ ทั้งคาวและหวาน เพราะช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย สวยงาม และดูดีมีระดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องเสิร์ฟอาหารในปริมาณมาก ๆ หรือนำออกไปวางขายนอกสถานที่ การเลือกใช้ถาดกระดาษที่มีคุณภาพจะช่วยให้อาหารของเราน่ารับประทานมากขึ้น และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้อย่างแน่นอน

ทำไมต้องใช้ถาดกระดาษ Food Grade

ภาพถาดกระดาษ Food Grade ที่ใช้บรรจุครัวซองต์และขนมเบเกอรี่

ถาดกระดาษ Food Grade เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความสำคัญในการบรรจุอาหาร เนื่องจากมีคุณสมบัติที่เหมาะสมและปลอดภัยต่อการใช้งานในธุรกิจอาหาร โดยมีข้อดีหลายประการที่ทำให้ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ดังนี้

1.ใช้ครั้งเดียวแล้วทิ้ง

ถาดกระดาษ Food Grade ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานแบบใช้แล้วทิ้ง ซึ่งช่วยลดภาระในการทำความสะอาดหลังการใช้งาน ทำให้สะดวกสบายและประหยัดเวลา โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น งานจัดเลี้ยงหรือร้านอาหารที่มีลูกค้าเยอะ

2.มีให้เลือกหลายขนาด หลายรูปทรง

ถาดกระดาษ Food Grade มีหลากหลายขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมกับประเภทของอาหารแต่ละชนิด เช่น ถาดสำหรับเค้ก, ขนมหวาน, หรืออาหารคาว ทำให้ผู้ประกอบการสามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมและความต้องการของลูกค้า

3.ราคาไม่แพง คุ้มค่าเมื่อซื้อจำนวนมาก

ราคาของถาดกระดาษ Food Grade มักจะไม่สูงเมื่อเปรียบเทียบกับวัสดุบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ โดยเฉพาะเมื่อสั่งซื้อในปริมาณมาก ทำให้เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าในการลงทุนสำหรับธุรกิจอาหาร

4.ช่วยรักษาความสดใหม่ของอาหาร

วัสดุที่ใช้ผลิตถาดกระดาษ Food Grade มีคุณสมบัติในการเก็บรักษาความสดใหม่ของอาหารได้ดี ช่วยป้องกันกลิ่นและความชื้นจากการสัมผัสกับอากาศ ทำให้อาหารยังคงมีคุณภาพดีเมื่อนำเสิร์ฟถึงมือลูกค้า

5.วางซ้อนทับกันได้ ประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ

ถาดกระดาษ Food Grade สามารถวางซ้อนทับกันได้ ซึ่งช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดเก็บ เป็นข้อดีสำหรับร้านอาหารหรือธุรกิจที่มีพื้นที่จำกัด

ภาพถาดกระดาษ Food Grade ขนาดต่าง ๆ เรียงกัน

ขนาดถาดกระดาษ Food Grade ที่นิยมใช้

ปัจจุบันมีถาดกระดาษ Food Grade ให้เลือกมากมายหลายขนาด หลายรูปทรง ทำให้เราสามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับประเภทของอาหารได้ เช่น

ขนาด 18 x 5 x 3.5 ซม.

เหมาะสำหรับใส่ฮอทดอกหรือลูกชิ้นปิ้ง เพราะมีความยาวพอดี ช่วยให้หยิบจับทานได้ง่าย ไม่เลอะเทอะ

ขนาด 15 x 7.2 x 5.2 ซม.

ถาดกระดาษสีขาว ทรงเรือ ขนาด 6 นิ้ว ขนาด 15 x 7.2 x 5.2 ซม. นี้ เหมาะสำหรับใส่ขนมปังสติ๊ก ขนมฟักบัว หรือขนมอบกรอบต่าง ๆ เพราะมีขนาดกะทัดรัด บรรจุได้พอดีคำ

ขนาด 25 x 17.5 x 2.1 ซม.

เหมาะสำหรับใส่หมูปิ้ง ลูกชิ้นทอด หรืออาหารทานเล่นชิ้นใหญ่ เพราะมีพื้นที่กว้างขวาง จุได้เยอะ และมีความลึกพอสมควร ป้องกันน้ำมันซึมออกมาเลอะได้

ขนาด 20.5 x 16.7 x 2.1 ซม.

เหมาะสำหรับใส่วาฟเฟิลฮ่องกง หรือขนมปังแผ่นบาง ๆ เพราะมีความกว้างและยาวที่ลงตัว ใส่ได้หลายชิ้นในถาดเดียว

ขนาด 20.5 x 13.5 x 4.4 ซม.

เหมาะสำหรับใส่ติ่มซำ ซาลาเปา หรืออาหารจานเดียวที่มีซอสเยอะ ๆ เพราะมีความสูงมากกว่าแบบอื่น กันน้ำซอสหกเลอะได้ดี

ขนาด 17 x 14.8 x 2.4 ซม.

เหมาะสำหรับใส่ไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ หรือของทอดต่าง ๆ เพราะสามารถระบายความมันส่วนเกินออกได้ และยังช่วยให้อาหารกรอบอยู่ได้นานขึ้น

ขนาด 16.8 x 11.9 x 1.6 ซม.

เหมาะสำหรับใส่ทาโกะยากิ หรืออาหารทอดจิ๋ว ๆ เพราะมีขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาสะดวก จัดวางได้ง่าย

ขนาด 20.4 x 13.9 x 2.5 ซม.

เหมาะสำหรับใส่ผลไม้หั่นชิ้น หรือสลัดผัก เพราะมีสีอ่อนช่วยขับให้อาหารดูสดใส น่ารับประทานยิ่งขึ้น

ขนาด 10.4 x 9.3 x 3.2 ซม.

เหมาะสำหรับใส่กุยช่ายทอด นักเก็ต ไก่ป๊อป หรือของทอดชิ้นเล็ก ๆ เพราะขนาดพอดีมือ หยิบจับสะดวก มีทั้งสีขาวสะอาดตา และลายไทยที่ดูมีเอกลักษณ์

ขนาด 15.9 x 8.9 x 3.2 ซม.

เหมาะสำหรับใส่ขนมปังปิ้ง ขนมครก หรือขนมไทยต่าง ๆ เพราะมีทรงยาว จัดเรียงได้เป็นระเบียบสวยงาม

ขนาด 18.5 x 11.5 x 3.8 ซม.

เหมาะสำหรับใส่ทาร์ตไข่ ขนมไทยชิ้นใหญ่ หรือขนมเปี๊ยะ เพราะมีขนาดใหญ่ที่สุดในไลน์สีขาวและลายไทย บรรจุได้เยอะ ใส่ได้หลากหลายชนิด

ภาพถาดกระดาษ Food Grade บรรจุอาหารทอด เช่น ไก่ทอดและเฟรนช์ฟรายส์

เลือกถาดกระดาษแบบไหนดี ตอบโจทย์ทุกความต้องการ

จากข้อมูลข้างต้น จะเห็นว่าถาดกระดาษ Food Grade มีให้เลือกหลากหลายขนาด ซึ่งล้วนแต่มีจุดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ในการใช้งานของแต่ละคน โดยหลักการเลือกให้เหมาะสมคือ

  1. เลือกขนาดให้สัมพันธ์กับปริมาณอาหาร: การเลือกขนาดถาดให้เหมาะสมกับปริมาณอาหารเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การเสิร์ฟดูสวยงามและไม่ยุ่งเหยิง ถ้าถาดเล็กเกินไป อาจทำให้อาหารล้นหรือเลอะเทอะ แต่ถ้าถาดใหญ่เกินไป อาจทำให้ดูไม่เป็นระเบียบและไม่ดึงดูดสายตา
  2. เลือกความสูงให้เหมาะกับความหนาหรือปริมาณซอสของอาหาร: ความสูงของถาดมีผลต่อการป้องกันไม่ให้น้ำซอสหกเลอะเทอะ หากอาหารมีซอสเยอะ ควรเลือกถาดที่มีความสูงมากพอที่จะเก็บซอสไว้ในถาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้การเสิร์ฟสะดวกและไม่ยุ่งยาก
  3. เลือกรูปทรงตามลักษณะของอาหาร: รูปร่างของถาดควรจะสอดคล้องกับประเภทของอาหาร เช่น ถาดทรงยาวเหมาะสำหรับขนมปังหรือฮอทดอก ขณะที่ถาดทรงกลมอาจเหมาะสำหรับลูกชิ้นหรือขนมทอด การเลือกใช้รูปทรงที่เหมาะสมช่วยเพิ่มความน่าสนใจในการนำเสนอ
  4. เลือกสีสันให้ตัดกับอาหาร: การเลือกสีของถาดสามารถช่วยเพิ่มความน่ารับประทานให้กับอาหารได้ เช่น ถาดสีขาวจะทำให้ผลไม้ดูสดใส ขณะที่สีน้ำตาลอาจทำให้ของทอดดูน่าสนใจยิ่งขึ้น การใช้สีที่ตัดกันจะช่วยเน้นให้เห็นรายละเอียดของอาหารได้ดี
  5. เลือกลวดลายให้เข้ากับธีมงาน: การเลือกลวดลายที่เข้ากับธีมของงานสามารถเพิ่มความหรูหราและสร้างบรรยากาศที่ดี เช่น ลายไทยในงานเลี้ยงผู้ใหญ่จะช่วยสร้างบรรยากาศที่เป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงวัฒนธรรมไทยได้ดี การเลือกใช้ลวดลายที่เหมาะสมยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจ

เมื่อเลือกถาดกระดาษได้เหมาะสมแล้ว ก็จะช่วยให้การรับประทานอาหารนั้นสะดวกขึ้น สวยงามขึ้น และยังแสดงถึงความใส่ใจในรายละเอียดอีกด้วย ซึ่งจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของธุรกิจ สร้างความประทับใจ และความภักดีให้กับลูกค้าได้ในระยะยาว

สรุป

ถาดกระดาษ Food Grade ถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการจัดเสิร์ฟอาหารทั้งคาวและหวาน ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นทั้งความสะดวกในการใช้งาน ความหลากหลายของขนาดและรูปทรง คุณภาพที่ช่วยรักษาความสดใหม่ของอาหาร รวมถึงความคุ้มค่าเมื่อซื้อในปริมาณมาก ทำให้ถาดกระดาษ Food Grade เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายในธุรกิจอาหาร โดยมีขนาดยอดนิยมให้เลือกมากมาย เช่น ขนาด 18 x 5 x 3.5 ซม. ที่เหมาะสำหรับใส่ฮอทดอกหรือลูกชิ้นปิ้ง ขนาด 25 x 17.5 x 2.1 ซม. ที่จุได้เยอะเหมาะสำหรับอาหารชิ้นใหญ่ หรือขนาด 20.4 x 13.9 x 2.5 ซม. ที่เหมาะสำหรับใส่ผลไม้หั่นหรือสลัดผัก ซึ่งการเลือกขนาดให้เหมาะสมกับปริมาณอาหาร ความสูงที่พอดีกับปริมาณซอส รูปทรงตามลักษณะอาหาร สีสันที่ตัดกับอาหาร และลวดลายที่เข้ากับธีมงาน จะช่วยเพิ่มความน่ารับประทาน สร้างความประทับใจ และส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ